ซันเดอร์แลนด์ 1 – 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชมวีดีโอคลิปไฮไลท์การแข่งขัน คลิ๊กที่นี่
สนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 39,085 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 21.00 น. วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 2548
ผู้ตัดสิน สตีฟ เบนเนตต์
เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย และจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ช่วยกันทำประตูให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า 3 คะแนนเต็มที่เหนื่อยยากในนัดที่บุกไปเอาชนะซันเดอร์แลนด์ ที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ไปได้ 3-1
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกเจ้าแมวดำต่อสู้ไม่มีถอยตลอดเกม แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็คว้าชัยชนะกลับออกมาได้สำเร็จในนัดที่ถือว่าเล่นกันได้อย่างสนุกสนานนัดหนึ่ง
ไรอัน กิ๊กส์ ไม่มีรายชื่อในทีมในการไปเยือนนัดนี้ ปีกพ่อมดชาวเวลส์ น่าจะมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นหลังหัวเข่า ตำแหน่งทางฝั่งซ้ายของเขาจึงตกเป็นของปาร์ค จีซุง กองกลางทีมชาติเกาหลีใต้ ในขณะที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้ลงเล่นรับผิดชอบเกมทางฝั่งขวา
อาการบาดเจ็บที่ต้นขาของคีแรน ริชาร์ดสัน ซึ่งได้รับมาจากการฝึกซ้อมในทีมชาติอังกฤษเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ ดาวรุ่งจากย่านซัลฟอร์ด ได้ลงสนามเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ชิพ เป็นนัดแรก
ซูการ์ เรย์ ลีโอนาร์ด อดีตนักชกแชมป์โลก ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากแฟนบอลในสนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้น
ซันเดอร์แลนด์ อยู่ในชุดเจ้าบ้านลายแดง-ขาว ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในชุดทีมเยือนสีน้ำเงิน
ยังมีที่นั่งว่างบางส่วนรอบๆ สนามเมื่อเกมเริ่มต้นขึ้น โดยด้านหลังประตูฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นแฟนบอลปิศาจแดงประมาณ 1,500 คน
แฟนบอลซันเดอร์แลนด์ ส่งเสียงยินดีกับเสียงประกาศที่ว่านิวคาสเซิล ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ให้กับวีแกน แอธเลติก ไป 1-0 และพวกเขาก็ส่งเสียงกระหึ่มอีกครั้งในนาทีที่ 12 เมื่อลูกโหม่งของแกรี่ บรีน จากลูกเตะมุมที่เปิดมาโดยเลียม ลอว์เรนซ์ ถูกเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดไปชนเสา หลายๆ คนคิดว่าบอลเข้าไปตุงตาข่ายแล้ว แต่การเซฟที่สุดยอดของผู้รักษาประตูชาวดัตช์ป้องกันไม่ให้เจ้าแมวดำทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ
เวย์น รูนี่ย์ ทำได้ดีในการพาบอลหนีการไล่ประกบของคู่แข่งในแดนตัวเอง
เขาผ่านบอลไปให้อลัน สมิธ ซึ่งส่งบอลต่อไปที่ว่างให้ปาร์ค วิ่งตามไป แต่ดีน ไวท์เฮด กองหลังซันเดอร์แลนด์ ไล่หลังมาเข้าสกัดนักเตะเกาหลีใต้ จากทางด้านหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลูกฟรีคิก ในขณะที่ไวท์เฮด ได้รับใบเหลืองไป
การบุกที่หวังผลได้เป็นครั้งแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในนาทีที่ 25 ซึ่งเริ่มต้นและจบลงโดยพอล สโคลส์ เขาส่งบอลไปให้รูนี่ย์ ทางฝั่งซ้ายดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ไล่ตามไปก่อนที่จะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ กองหลังซันเดอร์แลนด์ ถึงบอลก่อน แต่สกัดไม่ดี บอลไหลไปเข้าทางสโคลส์ แต่ลูกยิงของเขาพุ่งออกนอกกรอบทางเสาด้านขวาของเควิน เดวิส ไป
ไม่กี่วินาทีต่อมาซันเดอร์แลนด์ น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เมื่อแอนดี้ เวลช์ ได้โอกาสทองในกรอบเขตโทษ ถ้าเขาตอบสนองในทันทีก็น่าจะได้ประตูไปแล้ว แต่เวลช์ กลับลังเล และปล่อยให้ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้ามาคว้าบอลจากเท้าเอาไว้ได้
เกมเริ่มต่อสู้กันอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ โดยทั้ง 2 ทีมต่างผลัดกันรุกผลัดกันรับซันเดอร์แลนด์ ครองเกมได้ดีในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก แต่ความได้เปรียบของพวกเขาก็ไม่เป็นผล
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับใบเหลืองจากสตีฟ เบนเนตต์ ผู้ตัดสิน ในนาทีที่ 35 หลังจากไปเตะบอลทิ้ง ปีกทีมชาติโปรตุเกส ไม่พอใจคำตัดสินที่ลงโทษจอห์น โอเชีย
ดูเหมือนว่าซันเดอร์แลนด์ น่าจะทำประตูขึ้นนำไปก่อนได้ แต่แล้วในนาทีที่ 40 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เอาชนะกองหลังคู่แข่ง และทำประตูแรกของเกมได้จากการบุกสวนกลับ โอเชีย ตัดบอลได้ในแดนตัวเอง แล้วเปิดบอลให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่กระดกบอลต่อไปให้ ปาร์ค จีซุง ตอนนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นในแดนหน้าหลุดไป 3 คน ในขณะที่กองหลังซันเดอร์แลนด์ เหลืออยู่คนเดียว นักเตะเกาหลีใต้พาบอลขึ้นไปแล้วส่งเข้ากลางไปเข้าทาง รูนี่ย์ ดาวยิงปิศาจแดง จับบอลจังหวะแรกได้เปรียบ แล้วเลี้ยงบอลเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะพาบอลหลบผู้รักษาประตูแล้วยิงมุมแคบ บอลไปแฉลบ จัสติน ฮอยต์ แล้วไหลเข้าไปตุงตาข่าย
ครึ่งแรกจบลงด้วยการที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เดินทางไปด้วยส่งเสียงล้อเลียน มิค แม็คคาร์ธี่ย์ กุนซือซันเดอร์แลนด์ ที่เคยมีปัญหากับรอย คีน กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอลโลกปี 2002 แล้วแม็คคาร์ธี่ย์ ก็ตอบโต้ด้วยการทำท่าชูนิ้ว ซึ่งแฟนบอลซันเดอร์แลนด์ ชอบอกชอบใจ
ครึ่งหลังเริ่มต้นขึ้นในรูปแบบเดียวกับเมื่อ 45 นาทีแรก ซันเดอร์แลนด์ ยังคงมุ่งมั่น วิ่งไล่อย่างเต็มกำลัง และเปิดเกมรุกทุกโอกาส ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ครองบอลคุมเชิง และค่อยๆ บุกอย่างช้าๆ
การบุกของซันเดอร์แลนด์ ได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงเชียร์ดังสนั่นของฝูงชนในสนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ต้องกลั้นหายใจ เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำโดยรูนี่ย์ บุกโต้ตอบกลับไป
แม็คคาร์ธี่ย์ กุนซือซันเดอร์แลนด์ เปลี่ยนตัวเอาแอนโธนี่ย์ เลอ ตัลเล็ค อดีตนักเตะลิเวอร์พูล และโจนาธาน สตีด อดีตนักเตะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ลงสนามในนาทีที่ 62 โดยเปลี่ยนเอาเกรย์ และลอว์เรนซ์ ออกจากสนามไป
ผู้ชมจำนวน 39,085 คน น้อยกว่าความจุของสนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ หลายพันคน แต่บรรยากาศในสนามก็ยังยอดเยี่ยม
เจ้าแมวดำยังคงเปิดเกมรุกต่อไป แต่แล้วในนาทีที่ 76 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกสวนกลับ และได้ประตูที่ 2 โดยรูนี่ย์ ได้บอลที่กลางสนาม แล้วไหลบอลอย่างงดงามให้ ฟาน นิสเตลรอย จอมถล่มประตู หลุดการประกบของคู่เซ็นเตอร์แบ็คของซันเดอร์แลนด์ ไปทำประตูได้ โดยยิงบอลเรียดผ่านมือเดวิส ที่พุ่งปัดไม่โดน
เหลือเวลาอีก 8 นาที แฟนบอลซันเดอร์แลนด์ มีความหวังขึ้นมาบ้าง เมื่อสตีเฟ่น เอลลิออตต์ ยิงบอลโค้งเข้าไปตุงตาข่ายจากนอกกรอบเขตโทษ
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ดีใจได้ไม่นาน เมื่อเหลือเวลาเพียง 3 นาที จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนรุด ฟาน นิสเตลรอย ในนาทีที่ 78 โดยเป็นการประเดิมสนามนัดแรกในพรีเมียร์ชิพ ของเจ้าเปี๊ยก ก็ทำประตูที่ 3 ให้กับทีมได้ โดยรูนี่ย์ ไหลบอลให้รอสซี่ ได้ยิงเรียดนอกกรอบเขตโทษ บอลไปแฉลบกองหลังซันเดอร์แลนด์ เข้าประตูไป
จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะซันเดอร์แลนด์ ไป 3-1 ที่สนามสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ซันเดอร์แลนด์
เควิน เดวิส 1
แกรี่ บรีน 5
สตีเว่น คัลด์เวลล์ 6 ( น. 43)
จัสติน ฮอยต์ 32
ไนรอน นอสเวิร์ธ 12
แอนดี้ เกรย์ 18
เลียม ลอว์เรนซ์ 7
ทอมมี่ มิลเลอร์ 14
ดีน ไวท์เฮด 8 ( น. 20)
สตีเฟ่น เอลลิออตต์ 10 ( น. 82)
แอนดริว เวลช์ 11
สำรอง
เบน อัล์นวิค 13
แดนนี่ คอลลินส์ 15
คาร์ล โรบินสัน 4 น. 86 แอนดริว เวลช์ 11
แอนโธนี่ เลอ ตัลเล็ค 17 น. 62 เลียม ลอว์เรนซ์ 7
โจนาธาน สตีด 9 ( น. 71) น. 62 แอนดี้ เกรย์ 18
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ 26
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
จอห์น โอเชีย 22
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 35)
พอล สโคลส์ 18
ปาร์ค จีซุง 13
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 40)
อลัน สมิธ 14
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 ( น. 76)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
เชราร์ด ปิเก้ 28 น. 89 จอห์น โอเชีย 22
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
เลียม มิลเลอร์ 17 น. 89 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
จูเซ็ปเป้ รอสซี่ 42 ( น. 87) น. 78 รุด ฟาน นิสเตลรอย 10
สถิติของเกม
ซันเดอร์แลนด์ ประตู 1, ยิงประตู 11 ครั้ง ตรงกรอบ 6 ครั้ง, เซฟ 1, ฟาวล์ 12, เตะมุม 4, ใบเหลือง 3, การครองบอล 47%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 3, ยิงประตู 15 ครั้ง ตรงกรอบ 9 ครั้ง, เซฟ 4, ฟาวล์ 10, เตะมุม 5, ใบเหลือง 1, การครองบอล 53%
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
Por

Related Posts